ภาษาพัฒนาความคิด
ใช้ภาษาพัฒนาความคิด
1. บทบาทของภาษาในการพัฒนาความคิด
ในขณะที่มนุษย์ใช้ความคิดนั้น ย่อมอาศัยภาษาเป็นเครื่องมือในการคิดไปด้วย ทั้งนี้ภาษาจะ
ช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจความคิดของเรา และช่วยให้ตัวเราได้ขัดเกลาความคิดให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น และถ้า
สมรรถภาพในการใช้ภาษาของบุคคลใดมีอยู่จำกัด สมรรถภาพในการคิดก็พลอยถูกจำกัดด้วย ถ้า
บุคคลใดมีสมรรถภาพในการใช้ภาษาสูง บุคคลนั้นก็มีสมรรถภาพสูงในการคิด ซึ่งมีผลทำให้สมรรถภาพในการใช้ภาษาสูงตามไปด้วย ในกรณีที่บุคคลหลาย ๆ คน ใช้ความคิดร่วมกันแก้ปัญหา
บทบาทของภาษาจะยิ่งมีความสำคัญยิ่งขึ้น
2. วิธีคิด
1. วิธีคิดเชิงวิเคราะห์
การวิเคราะห์ คือ การพิจารณาสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เข้าใจ โดยวิธีแยกแยะสิ่งที่พิจารณานั้นออก
เป็นส่วน ๆ เพื่อความเข้าใจแต่ละส่วนให้แจ่มแจ้ง แล้วก็พยายามทำความเข้าใจว่า แต่ละส่วนนั้นมีความ
สัมพันธ์ต่อเนื่องกันอย่างไร
แนวในการคิดเชิงวิเคราะห์ทุกประเภท สรุปได้ดังนี้
1. กำหนดขอบเขตหรือนิยามสิ่งที่จะวิเคราะห์ให้ชัดเจน คือรู้ว่าคิดวิเคราะห์อะไร
2. กำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน คือรู้ว่า วิเคราะห์เพื่ออะไร
3. หากหลักความรู้ หรือทฤษฎีเป็นแนวทาง คือรู้ว่าใช้เครื่องมืออะไรในการวิเคราะห์
4. ใช้หลักความรู้ให้ตรงกับเรื่องที่วิเคราะห์ คือรู้ว่าวิเคราะห์อย่างไร
5. สรุปสิ่งที่ทำ คือการรายงานผลการวิเคราะห์ให้เป็นระเบียบเห็นได้ชัดเจน
2. วิธีคิดเชิงสังเคราะห์
การสังเคราะห์คือ การรวมส่วนต่าง ๆ ให้ประกอบกันเข้าด้วยวิธีที่เหมาะสมจนเกิดสิ่งใหม่
นำไปใช้ประโยชน์ได้
แนวในการคิดเชิงสังเคราะห์ สรุปได้ดังนี้
1. ตั้งจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนว่าต้องการจะสรรสร้างสิ่งใด เพื่อประโยชน์อะไร หรือเพื่อให้
ทำหน้าที่อะไร
2. หาความรู้เกี่ยวกับหลักการ ทฤษฎีหรือ โครงสร้างที่เหมาะสมเพื่อนำมาเป็นหลักในการ
สังเคราะห์
3. ทำความเข้าใจกับส่วนต่าง ๆ ที่จะนำมาประกอบในการสังเคราะห์ให้ถ่องแท้
4. นำความรู้ หลักการ ทฤษฎี มาใช้ให้ตรงกับเรื่องที่จะสังเคราะห์เป็นกรณี ๆ ไป
5. สอบสวนทบทวนผลของการสังเคราะห์ว่าเหมาะกับความมุ่งหมายหรือไม่ เพียงใด
1. บทบาทของภาษาในการพัฒนาความคิด
ในขณะที่มนุษย์ใช้ความคิดนั้น ย่อมอาศัยภาษาเป็นเครื่องมือในการคิดไปด้วย ทั้งนี้ภาษาจะ
ช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจความคิดของเรา และช่วยให้ตัวเราได้ขัดเกลาความคิดให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น และถ้า
สมรรถภาพในการใช้ภาษาของบุคคลใดมีอยู่จำกัด สมรรถภาพในการคิดก็พลอยถูกจำกัดด้วย ถ้า
บุคคลใดมีสมรรถภาพในการใช้ภาษาสูง บุคคลนั้นก็มีสมรรถภาพสูงในการคิด ซึ่งมีผลทำให้สมรรถภาพในการใช้ภาษาสูงตามไปด้วย ในกรณีที่บุคคลหลาย ๆ คน ใช้ความคิดร่วมกันแก้ปัญหา
บทบาทของภาษาจะยิ่งมีความสำคัญยิ่งขึ้น
2. วิธีคิด
1. วิธีคิดเชิงวิเคราะห์
การวิเคราะห์ คือ การพิจารณาสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เข้าใจ โดยวิธีแยกแยะสิ่งที่พิจารณานั้นออก
เป็นส่วน ๆ เพื่อความเข้าใจแต่ละส่วนให้แจ่มแจ้ง แล้วก็พยายามทำความเข้าใจว่า แต่ละส่วนนั้นมีความ
สัมพันธ์ต่อเนื่องกันอย่างไร
แนวในการคิดเชิงวิเคราะห์ทุกประเภท สรุปได้ดังนี้
1. กำหนดขอบเขตหรือนิยามสิ่งที่จะวิเคราะห์ให้ชัดเจน คือรู้ว่าคิดวิเคราะห์อะไร
2. กำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน คือรู้ว่า วิเคราะห์เพื่ออะไร
3. หากหลักความรู้ หรือทฤษฎีเป็นแนวทาง คือรู้ว่าใช้เครื่องมืออะไรในการวิเคราะห์
4. ใช้หลักความรู้ให้ตรงกับเรื่องที่วิเคราะห์ คือรู้ว่าวิเคราะห์อย่างไร
5. สรุปสิ่งที่ทำ คือการรายงานผลการวิเคราะห์ให้เป็นระเบียบเห็นได้ชัดเจน
2. วิธีคิดเชิงสังเคราะห์
การสังเคราะห์คือ การรวมส่วนต่าง ๆ ให้ประกอบกันเข้าด้วยวิธีที่เหมาะสมจนเกิดสิ่งใหม่
นำไปใช้ประโยชน์ได้
แนวในการคิดเชิงสังเคราะห์ สรุปได้ดังนี้
1. ตั้งจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนว่าต้องการจะสรรสร้างสิ่งใด เพื่อประโยชน์อะไร หรือเพื่อให้
ทำหน้าที่อะไร
2. หาความรู้เกี่ยวกับหลักการ ทฤษฎีหรือ โครงสร้างที่เหมาะสมเพื่อนำมาเป็นหลักในการ
สังเคราะห์
3. ทำความเข้าใจกับส่วนต่าง ๆ ที่จะนำมาประกอบในการสังเคราะห์ให้ถ่องแท้
4. นำความรู้ หลักการ ทฤษฎี มาใช้ให้ตรงกับเรื่องที่จะสังเคราะห์เป็นกรณี ๆ ไป
5. สอบสวนทบทวนผลของการสังเคราะห์ว่าเหมาะกับความมุ่งหมายหรือไม่ เพียงใด
3.
วิธีคิดเชิงประเมินค่า
การประเมินค่า คือ การใช้ดุลยพินิจตัดสินคุณค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่า สิ่งนั้นดีหรือเลว มีคุณ
หรือโทษ มีประโยชน์มากน้อย แค่ไหน เพียงไร โดยทั่วไปก่อนที่จะประเมินค่าจะต้องมีเกณฑ์ตั้งไว้
ก่อนเพื่อนำเกณฑ์นั้นมาใช้เป็นเครื่องตัดสินว่า สิ่งที่ประเมินค่าอยู่ในขั้นใด หรือประเมินค่าโดย
พิจารณาเปรียบเทียบกับหลักฐานอื่นตามความเหมาะสมก็ได้
แนวในการคิดเชิงประเมินค่า สรุปได้ดังนี้
1. ทำความเข้าใจสิ่งที่จะประเมินให้ชัดเจน ก็คือ การวิเคราะห์นั่นเอง
2. พิจารณาว่า จะใช้เกณฑ์อะไรเป็นเครื่องตัดสินคุณค่าของสิ่งที่จะประเมินต้องระบุ
เกณฑ์ให้ชัดเจนและต้องพิจารณาด้วยว่า เกณฑ์นั้นเหมาะสมแก่การประเมินหรือไม่เพียงไร
3. การประเมินโดยใช้เปรียบเทียบกับหลักฐานอื่น ต้องกล่าวถึงหลักฐานให้ชัดเจนและ
พิจาณาความสมเหตุสมผลของหลักฐานที่จะนำมาเปรียบเทียบ
แนวทางในการคิดทั้ง 3 แบบ เป็นแนวทางให้ผู้ใช้ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมกับเรื่อง ๆ
ไปหรืออาจใช้การคิดทั้ง 3 แบบ ก็ได้
ประโยชน์ของระเบียบวิธีคิดทั้ง 3 แบบ สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาได้
3. การคิดเพื่อแก้ปัญหา
หลักในการคิดเพื่อแก้ปัญหา มีหลักสำคัญดังนี้
1. ประเภทของปัญหา มี 3 ประเภท คือ
- ปัญหาเฉพาะบุคคล
- ปัญหาเฉพาะกลุ่ม
- ปัญหาสาธารณะ (สังคม)
2. สาเหตุและสภาพแวดล้อมของปัญหา
ในการคิดเพื่อแก้ปัญหาต้องหาสาเหตุสำคัญให้ได้ และต้องรู้ถึงสภาพแวดล้อมของ
ปัญหาให้ได้ว่ามีอยู่อย่างไร
3. เป้าหมายในการแก้ปัญหา ก็คือการปลอดพ้นจากสภาพที่ไม่พึงประสงค์
4. การเลือกวิถีทางแก้ปัญหา ควรจะเลือกวิถีทางที่อุปสรรคน้อยที่สุดหรือไม่มีอุปสรรค
เลยวิถีทางที่เลือกนี้จะต้องอยู่ในภาวะที่ปฏิบัติได้ แล้วไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในภายหลัง และเป็นวิถี
ทางที่ให้ความมั่นใจว่าจะนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ในการพิจารณาสาเหตุของปัญหานั้นใช้ระเบียบวิธีคิดเชิงวิเคราะห์นั่นเอง ส่วนการคิดหาทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาใช้ระเบียบวิธีคิดเชิงสังเคราะห์ และเมื่อจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ก็ใช้ระเบียบ
วิธีคิดในเชิงประเมินค่า
การประเมินค่า คือ การใช้ดุลยพินิจตัดสินคุณค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่า สิ่งนั้นดีหรือเลว มีคุณ
หรือโทษ มีประโยชน์มากน้อย แค่ไหน เพียงไร โดยทั่วไปก่อนที่จะประเมินค่าจะต้องมีเกณฑ์ตั้งไว้
ก่อนเพื่อนำเกณฑ์นั้นมาใช้เป็นเครื่องตัดสินว่า สิ่งที่ประเมินค่าอยู่ในขั้นใด หรือประเมินค่าโดย
พิจารณาเปรียบเทียบกับหลักฐานอื่นตามความเหมาะสมก็ได้
แนวในการคิดเชิงประเมินค่า สรุปได้ดังนี้
1. ทำความเข้าใจสิ่งที่จะประเมินให้ชัดเจน ก็คือ การวิเคราะห์นั่นเอง
2. พิจารณาว่า จะใช้เกณฑ์อะไรเป็นเครื่องตัดสินคุณค่าของสิ่งที่จะประเมินต้องระบุ
เกณฑ์ให้ชัดเจนและต้องพิจารณาด้วยว่า เกณฑ์นั้นเหมาะสมแก่การประเมินหรือไม่เพียงไร
3. การประเมินโดยใช้เปรียบเทียบกับหลักฐานอื่น ต้องกล่าวถึงหลักฐานให้ชัดเจนและ
พิจาณาความสมเหตุสมผลของหลักฐานที่จะนำมาเปรียบเทียบ
แนวทางในการคิดทั้ง 3 แบบ เป็นแนวทางให้ผู้ใช้ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมกับเรื่อง ๆ
ไปหรืออาจใช้การคิดทั้ง 3 แบบ ก็ได้
ประโยชน์ของระเบียบวิธีคิดทั้ง 3 แบบ สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาได้
3. การคิดเพื่อแก้ปัญหา
หลักในการคิดเพื่อแก้ปัญหา มีหลักสำคัญดังนี้
1. ประเภทของปัญหา มี 3 ประเภท คือ
- ปัญหาเฉพาะบุคคล
- ปัญหาเฉพาะกลุ่ม
- ปัญหาสาธารณะ (สังคม)
2. สาเหตุและสภาพแวดล้อมของปัญหา
ในการคิดเพื่อแก้ปัญหาต้องหาสาเหตุสำคัญให้ได้ และต้องรู้ถึงสภาพแวดล้อมของ
ปัญหาให้ได้ว่ามีอยู่อย่างไร
3. เป้าหมายในการแก้ปัญหา ก็คือการปลอดพ้นจากสภาพที่ไม่พึงประสงค์
4. การเลือกวิถีทางแก้ปัญหา ควรจะเลือกวิถีทางที่อุปสรรคน้อยที่สุดหรือไม่มีอุปสรรค
เลยวิถีทางที่เลือกนี้จะต้องอยู่ในภาวะที่ปฏิบัติได้ แล้วไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในภายหลัง และเป็นวิถี
ทางที่ให้ความมั่นใจว่าจะนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ในการพิจารณาสาเหตุของปัญหานั้นใช้ระเบียบวิธีคิดเชิงวิเคราะห์นั่นเอง ส่วนการคิดหาทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาใช้ระเบียบวิธีคิดเชิงสังเคราะห์ และเมื่อจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ก็ใช้ระเบียบ
วิธีคิดในเชิงประเมินค่า
หลักสำคัญในการคิดเพื่อแก้ปัญหา มีดังนี้
1. ทำความเข้าใจลักษณะของปัญหาและกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน
2. พิจาณาหาสาเหตุของปัญหา
3. วางเป้าหมายในการแก้ปัญหาให้ชัดเจน เพื่อจะได้คิดหาทางให้บรรลุเป้าหมาย
4. คิดหาวิถีทางแก้ปัญหาด้วยวิธีต่าง ๆ
5. เลือกวิถีทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดให้บรรลุเป้าหมายและให้เป็นไปตามเงื่อนไข
ที่ต้องการ
1. ทำความเข้าใจลักษณะของปัญหาและกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน
2. พิจาณาหาสาเหตุของปัญหา
3. วางเป้าหมายในการแก้ปัญหาให้ชัดเจน เพื่อจะได้คิดหาทางให้บรรลุเป้าหมาย
4. คิดหาวิถีทางแก้ปัญหาด้วยวิธีต่าง ๆ
5. เลือกวิถีทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดให้บรรลุเป้าหมายและให้เป็นไปตามเงื่อนไข
ที่ต้องการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น