แม่เหล็กไฟฟ้ามีประโยชน์มากมาย ใช้หลักการที่แม่เหล็กดูดแผ่นโลหะเมื่อวงจรปิดซึ่งเป็นการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล เช่นพลังงานเสียง

มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกพึงพอใจในเสียงที่ทุ้มนุ่มนวลของกระดิ่งไฟฟ้าสำหรับประตูมากกว่าเสียงที่กระด้างน่ารำคาญของกริ่งหรือออดไฟฟ้า กระดิ่งไฟฟ้า แบบใหม่มักจะออกแบบให้เคาะส่งเสียงที่แตกต่างกัน 2 เสียงต่อเนื่องกันสำหรับประตูหน้าบ้าน (แบบที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ อาจทำให้เคาะส่งเสียงได้ถึง 4 เสียงหรือมากกว่าก็ได้ ) และเคาะส่งเสียงเพียง 1 เสียง สำหรับประตูหลังบ้านการเคาะส่งเสียงดังกล่าวเกิดจากการเคลื่อนที่ของแกนวิ่งของอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้าที่เรียกว่าขดลวดเหนี่ยวนำ (แทนที่ตัวตัดวงจรชั่วขณะในกริ่งประตูไฟฟ้า )
การต่อสายไฟในวงจรกระดิ่งไฟฟ้ามีลักษณะเหมือนกับการต่อสายไฟฟ้าของการใช้กริ่งและออดไฟ้ฟ้าร่วมกัน คือจะใช้หม้อแปลงแรงดันไฟฟ้าเพียงตัวเดียว เพื่อลดแรงดันไฟฟ้าบ้านลงก่อนจัดจ่ายให้กับกระดิ่งไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องการเปลี่ยนจากการใช้กริ่งและออดไฟฟ้าร่วมกันมาเป็นการใช้กระดิ่งไฟฟ้าเพียงตัวเดียวนั้น ควรจะตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าที่ตัวกระดิ่งใหม่ต้องการเสียก่อน ซึ่งถ้าพบว่าหม้อแปลงแรงดันตัวเดิมจัดจ่ายแรงดันไฟฟ้าผิดไปจาก ที่ตรวจสอบพบ ก็จะต้องทำการเปลี่ยนหม้อแปลงใหม่ด้วย คลิกอ่านต่อครับ

รูปที่ 1 สวิตช์ปุ่มกดที่ประตูหน้าบ้านจะจ่ายกำลังไฟฟ้าให้แก่ขดลวดเหนี่ยวนำตัวบน ดังนั้น แกนวิ่งของขดลวดเหนี่ยวนำตัวบนนี้จะวิ่งเข้าเคาะกระทบแผ่นกระดิ่งทั้ง 2 แผ่น และเมื่อมีการกดสวิตช์ปุ่มกดที่ประตูหลังบ้าน ขดลวดเหนี่ยวนำตัวล่างจะดูดให้แกนวิ่ง วิ่งเข้าเคาะกระทบเพียงแผ่นกระดิ่งทางด้านขวามือเท่านั้น ส่วนการเคลื่อนที่กลับมานั้นแกนวิ่งจะไม่เคาะกระทบกับแผ่นกระดิ่งทางด้านซ้ายมือเท่านั้น ส่วนการเคลื่อนที่กลับมานั้นแกนวิ่งจะไม่เคาะกระทบกับแผ่นกระดิ่งทางด้านซ้ายมือ ทั้งนี้เพราะมีลูกยางบรรเทาการกระแทกคอยรับการวิ่งเข้ากระทบของปลายด้านซ้ายของแกนวิ่งตัวล่าง
ใบบันทึกผลการทดลอง
คลิกบนสวิทซ์ สังเกตว่า มีอะไรเกิดขึ้น และอธิบายด้วยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
_________________________________________________________________
_________________________________________________________________
_________________________________________________________________
_________________________________________________________________



รถไฟแม่เหล็ก
บทนำวันนี้ถ้าคุณได้เข้าไปในสนามบิน คุณจะเห็นแต่คนเดินกันพลุกพล่าน และเสียงจ๊อกแจ๊ก จอแจเต็มสนามบินไปหมด เสียงเหล่านี้น่ารำคาญยิ่ง แต่ก็ต้องทนฟัง เพราะการโดยสารด้วยเครื่องบินเป็นวิธีการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ ในระยะทางไกลๆ ที่เร็วสุดในปัจจุบัน
ถ้าคุณไม่ใช้เครื่องบิน หันไปใช้บริการของรถแท๊กซี่ รถบัส เรือ และรถไฟ เป็นต้น ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ข้อเสียประการเดียวของมันก็คือ ช้าไม่ทันใจ นั่งรถบัสจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เครื่องบินเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามในศตวรรษหน้าจะมีการปฏิวัติการเดินทางแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณเคลื่อนที่ในแนวระดับด้วยความเร็วไม่น้อยกว่าเครื่องบิน
รถไฟพลังงานแม่เหล็กมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า รถไฟแมกเลฟ ( Maglev trains ) ด้วยอำนาจการผลักดันของแม่เหล็กทำให้รถไฟทั้งคันลอยอยู่เหนือรางเล็กน้อย จึงไม่มีแรงเสียดทาน วิ่งได้เร็วเทียบได้กับจรวด ไม่เหมือนกับรถไฟแบบเก่าที่ใช้ล้อเหล็กกลิ้งอยู่บนราง ฟิสิกส์ราชมงคลจะเปิดเผยกลไกการทำงานของรถไฟแม่เหล็ก ให้ทราบในหน้าถัดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น